พระขพุงผีเทพยดา : "พระแม่ย่า" สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองสุโขทัย
- พชรพงษ์ พุฒซ้อน
- 17 ก.ค. 2567
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 16 ต.ค.
เผยแพร่ครั้งแรก 1 ก.ย. 2561

เทวรูปพระแม่ย่า
"ศาลพระแม่ย่า" ริมแม่น้ำยม ใกล้ศาลากลางจังหวัดในปัจจุบัน ในเมืองสุโขทัยธานีถือเเป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดสุโขทัย เนื่องจากเป็นที่ประดิษฐานองค์เทวรูปพระแม่ย่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสุโขทัย ที่ชาวเมืองสุโขทัยเคารพเลื่อมใสศรัทธาอย่างมากโดยมีผู้มากราบไหว้สักการะอยู่ไม่ขาด
สถานที่พบรูปเคารพพระแม่ย่าอยู่ที่ถ้ำบริเวณบ้านโว้งบ่อของเทือกเขาหลวงในตำบลเชิงคีรี ถ้ำนี้มีลักษณะเป็นเพิงผาหรือ Shelter ไม่ใช่โพรงถ้ำภายในภูเขาหินปูแต่อย่างใด ด้านล่างคือโชกหรือลำธารน้ำพระแม่ย่า ปัจจุบันกลายเป็นวัดป่าถ้ำแม่ย่า (ธรรมยุต) ตามตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา ถ้ำแห่งนี้เป็นที่อยู่ของพระนางเสืองหรือพระแม่ย่า พระมารดาของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชมาบำเพ็ญศีลภาวนาอยู่ภายในถ้ำ บ้างก็สันนิษฐานว่ารูปเคารพนี้เป็นเทวรูปพระนารายณ์ ซึ่งพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วก็ไม่อาจเป็นเทวรูปไปได้
รูปเคารพพระแม่ย่า สลักด้วยหินชนวน เป็นรูปสตรีผอมสูง ใบหน้ายาวคล้ายพระพักตร์พระพุทธรูปแบบสุโขทัย ผมมุ่นมวยสูง ๔ ชั้น ใส่ต่างหูยาว ใส่เฉพาะสังวาลย์ไม่สวมเสื้อและสวมผ้านุ่งแบบชายไหว ชายแครงเป็นเชิงชั้นทั้งสองข้างแบบศิลปะการนุ่งผ้าสตรีสมัยสุโขทัยไม่สวมเสื้อหรือสไบ เปลือย ส่วนบนทั้งหมดเห็นพระถันทั้งสองเต้า ใส่กำไลแขน กำไลข้อมือ และกำไลข้อเท้า สวมชฎาทรงสูง สวมรองพระบาทปลายงอน ความสูงรวมแท่ยประทับรวม ๕๒ นิ้ว หรือราว ๑๓๐ เซนติเมตร ชาวบ้านมีความเชื่อว่าเทวรูปพระแม่ย่าองค์นี้คือ "พระนางเสือง" พระมารดาของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
ราวปี พ.ศ. ๒๔๕๘ ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงสืบสวนเรื่องราวต่าง ๆ ของเมืองสุโขทัย พบรูปเคารพสตรีที่ชาวบ้านนับถือมากบริเวณเทือกเขาหลวง ซึ่งชาวบ้านแถวนั้นเรียกว่า โซกพระแม่ย่า ห่างจากเมืองสุโขทัยเก่าทางทิศใต้ประมาณ ๗ กิโลเมตร และมีสมมติฐาน จากข้อความในจารึกหลักที่ ๑ ซึ่งกล่าวถึง “พระขพุงผี” ที่อยู่ทิศเบื้องบนหัวนอนเมืองสุโขทัย และเนื่องจากไม่พบรูปเคารพอื่นใด จึงทรงสันนิษฐานว่า “พระแม่ย่า” องค์นี้น่าจะเป็น “พระขพุงผี” ชาวบ้านในแถบนั้นเรียกรูปเคารพองค์นี้ว่า “พระแม่ย่า” ถ้ำที่พบก็เรียกว่า “ถ้ำพระแม่ย่า"
แต่ข้อมูลที่โรม บุนนาค เขียนไว้กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถได้เสด็จไปสำรวจเมืองสุโขทัย เมื่อ พ.ซ. ๒๔๕๕ และทรงนิพนธ์ไว้ในหนังสือ “กำเนิดเมืองสุโขทัยและสวรรคโลก” ในทำนองเดียวกันว่ามีการค้นหาในบริเวณเทือกเขาหลวงตามข้อมูลในจารึกหลักที่ ๑ โดยเข้าใจว่าเบื้องหัวนอนนั้นเป็นทิศเหนือ แต่หากที่ถูกแล้วคือทางทิศใต้ และเสด็จไปพบรูปเคารพพระแม่ย่าที่ถ้ำพระแม่ย่านี้ด้วยพระองค์เอง และทรงดำริให้นำไปเก็บรักษาไว้ที่ศาลากลางจังหวัดสุโขทัยไม่เช่นนั้นอาจจะสูญหายได้ (ผู้จัดการออนไลน์, เผยแพร่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๙)
"เมืองสุโขทัย" เป็นเมืองที่อิงภูเขา ตั้งอยู่ด้านหน้าของเขาหลวงที่มีเชิงเขาและที่ลาดลงสู่พื้นที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึงทางฝั่งตะวันตกของลำน้ำยม โดยมีการรับน้ำจากป่าเขามาใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค รวมถึงการทำการเกษตร ระบบการชลประทานที่นำน้ำจากบนเขาเข้ามาใช้ในเมืองนี้จะเห็นเป็นร่องรอยของทำนบเป็นคันดินใหญ่ ที่ในจารึกเรียกว่า สรีดภงส์ และลำเหมืองนำน้ำผ่านกลุ่มวัดอรัญญิก ผ่านกำแพงเมือง เข้ามากักไว้ตามตระพังใหญ่ในเมืองและบริเวณโดยรอบ
ระบบการชลประทานที่นำน้ำจากบนเขา เข้ามาใช้ในเมืองนี้จะเห็นเป็นร่องรอยของทำนบเป็นคันดินใหญ่ ในจารึกเรียกว่า สรีดภงส์ และคันดินเล็กใหญ่อีกเป็นจำนวนมาก รวมทั้งที่เรียกกันว่า “ถนนพระร่วง” ที่เป็นแนวทำนบโบราณและเป็นคันดินที่ใช้เป็นทางคมนาคมเป็นช่วง ๆ ได้ด้วย
ในด้านศาสนา สังคมสุโขทัยมีการนับถือทั้งศาสนาพุทธนิกายมหายานและเถรวาท ศาสนาพราหมณ์ฮินดู และการนับถือผี เมื่อสุโขทัยรับพุทธศาสนาจากลังกาโดยกษัตริย์เป็นองค์ศาสนนูปถัมภกทำให้่พุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์รุ่งเรืองในสุโขทัยอย่างมากขนบประเพณีทางพุทธศาสนาที่สำคัญ อย่างเช่น การบวช การนับถือ พระบรมธาตุ การไหว้บูชาพระพุทธรูป
และนอกจากการนับถือศาสนาแล้ว ก็ยังพบว่ามีการนับถือผีหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อำนาจเหนือธรรมชาติ โดยเป็นความเชื่อดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่โบราณแล้ว จะเห็นได้ว่าข้อความในจารึกที่ทำให้รู้จักชาวสุโขทัยมากที่สุดคือเรื่องราวความเชื่อ โลกนี้และโลกหน้า ซึ่งเป็นความเชื่อขั้นพื้นฐานของคนในสมัยโบราณ นั่นก็คือเรื่อง "ผี"
ความเชื่อเกี่ยวกับผีของชาวสุโขทัยแบ่งออกเป็นสองประเภท อย่างแรกคือ ผีบรรพบุรุษ หมายถึง วิญญาณของพ่อแม่ปู่ย่าตายายที่ตายไปแล้ว หรือผีหัวหน้าหมู่บ้านที่เป็นบรรพบุรุษของหมู่บ้าน อย่างที่สองคือ ผีประจำสถานที่ หมายถึงวิญญาณที่สถิต ณ ภูเขาใหญ่ ถ้ำ ป่าไม้ แม่น้ำลำธาร คอยปกปักรักษาพื้นที่เหล่านี้เอาไว้ โดยมีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถดลบันดาลให้คุณและโทษแก่ผู้ที่กระทำผิดไม่ซื่อตรงในกิจการต่าง ๆ หรือกระทำผิดคำสาบาน เช่น พระขพุงผีเทพดา ผีประจำเขาหลวงของเมืองสุโขทัย โดยมีบทบาทอย่างมากในระบบความเชื่อนี้ที่สืบต่อกันมา
จากศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง หลักที่ ๑ เป็นหลักฐานกล่าวว่า “ มีพระขพุงผีเทพดาในเขาอันนั้น เป็นใหญ่กว่าทุกผีในเมืองนี้ ขุนผู้ใดถือเมืองสุโขทัยนี้แล้ ไหว้ดีผีถูก เมืองนี้เที่ยง เมืองนี้ดี ผิไหว้บ่ดี พลีบ่ถูก ผีในเขาอั้นบ่คุ้ม บ่เกรง เมืองนี้หาย ”
จากข้อความข้างต้น แปลได้ว่าเขาหลวงเป็นที่สถิตของ "พระขพุงผี" มีอำนาจต่อความเป็นไปของบ้านเมือง ผู้ปกครองจำเป็นต้องบูชาผีให้ถูกเพื่อความสงบสุขของผู้คนและบ้านเมือง

เพิงผาหรือถ้ำพระแม่ย่า ในตำบลนาเชิงคีรี
อย่างไรก็ตาม ลักษณะรูปเคารพนี้ดูเป็นสตรีเพศอย่างเห็นได้ชัด เกินกว่าที่จะเป็นรูปลักษณ์ของพระนารายณ์ เป็นสตรีมีเครื่องประดับอย่างสตรีโบราณผู้สูงศักดิ์ ประทับยืนตรงแขนทั้งสองข้างแนบพระกาย นุ่งผ้าปล่อยชายไหว ชาวบ้านจึงเชื่อว่าเป็นพระนางเสืองและสาเหตุที่เรียกพระแม่ย่า อันหมายถึง สตรีที่มีฐานะสูงสุด เป็นทั้งพระมารดาและพระอัยยิกาแห่งเมืองสุโขทัย เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกปักรักษาเมือง ป่าเขา หรือทรัพยากรต่าง ๆ ด้านหน้าถ้ำนั้นมีธารน้ำไหลผ่านเรียกว่าโซกพระแม่ย่า หล่อเลี้ยงอาณาบริเวณชุมชนแถบนี้อีกเส้นทางน้ำหนึ่งที่ไหลผ่านเพื่อเข้าไปยังตัวเมืองเก่าสุโขทัยในอดีตตามที่กล่าวมาข้างต้น เพราะทางภูมิศาสตร์ส่วนนี้ ส่วนใหญ่เป็นป่าและที่เวิ้งเข้าไปในหุบเขาและซอกเขาจำนวนมาก มีร่องรอยของแนวคันดินที่ตัดเข้าไป มีทรัพยากรมากมาย ถ้ำพระแม่ย่าในบริเวณนี้จึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ระบบความเชื่อของท้องถิ่นเรื่อง ผี หรือ อำนาจสิ่งเหนือธรรมชาติ จึงถูกนำมาใช้เพื่อปกปักรักษาทรัพยากรที่มีให้ยังคงอยู่สืบมา คล้ายคลึงกันกับที่อื่น ๆ เช่น ในภาคอีสาน แต่ละท้องที่จะเรียกดอนปู่ตา ศาลปู่ตา ที่คอยปกปักรักษาพื้นที่นั้น ๆ ฯลฯ
พระยารามราชภักดีเจ้าเมืองสุโขทัยในเวลานั้นจึงได้อัญเชิญองค์เทวรูปองค์นี้ มาเก็บรักษาไว้ที่ศาลากลางจังหวัด โดยมีชาวเมืองสุโขทัยช่วยกันแห่อย่างเนืองแน่น เกิดฝนตกหนักเป็นอัศจรรย์เพราะขณะนั้นเป็นฤดูแล้งไม่ใช่ฤดูฝน และเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๕ เมื่อจังหวัดสุโขทัยถูกเปลี่ยนเป็นจังหวัดสวรรคโลก รูปเคารพพระแม่ย่าก็ถูกย้ายไปประดิษฐานในศาลากลางจังหวัดสวรรคโลกในระยะหนึ่ง จนเมื่อจังหวัดสวรรคโลกเปลี่ยนมาเป็นจังหวัดสุโขทัยตามเดิม รูปเคารพพระแม่ย่าจึงกลับมาอยู่ ณ ศาลากลางจังหวัดสุโขทัยอีกครั้ง
ต่อมาชาวสุโขทัยอัญเชิญพระแม่ย่าออกมาแห่ในวันสงกรานต์ เพื่อร่วมกันสรงน้ำและขอพร ทุกครั้งที่แห่จะมีฝนตกลงมาเป็นที่อัศจรรย์ทุกครั้ง จนกลายเป็นประเพณีแห่พระแม่ย่าในวันสงกรานต์จะต้องมีฝนตกต้องตามฤดูกาล ข้าวกล้านาดี ไม่เกิดความแห้งแล้ง และในปี พ.ศ. ๒๔๙๖ นายเชื่อม ศิริสนธิ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัด เกรงว่า ถ้านำรูปเคารพพระแม่ย่ามาแห่บ่อย ๆ อาจทำให้ตกหล่นเสียหายได้ จึงสร้างศาลให้เป็นที่ประดิษฐานอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยมฝั่งตะวันออกตรงหน้าศาลากลางจังหวัดสุโขทัย เรียกว่า “ศาลพระแม่ย่า” จึงได้ประดิษฐานอยู่ในที่แห่งนี้ตั้งแต่ปีนั้นเป็นต้นมา และได้สลักท่อนศิลาเป็นองค์จำลองขึ้นมาใหม่แทน เพื่อสำหรับออกแห่ให้ประชาชนสรงน้ำในวันมหาสงกรานต์ โดยทางเทศบาลเมืองสุโขทัยเป็นเจ้าพิธีขบวนแห่เรื่อยมา
ปัจจุบัน ศาลพระแม่ย่า ที่มีเทวรูปจำลอง 2 องค์ ตั้งอยู่ด้านหน้าตรงบันไดทางเข้าประตูศาล กิตติศัพท์ความศักดิ์สิทธิ์ของ พระแม่ย่าสุโขทัย นั้นเลื่องลือไปทั่ว ด้วยความเชื่อที่ว่าจะช่วยขจัดปัดเป่าความเดือดร้อน ขอพร ขอโชคลาภ เป็นสถานที่ชาวเมืองสุโขทัย หรือผู้คนจากที่อื่นต่างมาแวะเวียนกราบไหว้ พากันปิดแผ่นทองคำเปลวทั่วองค์ทำให้มองไม่เห็นองค์จนใบหน้าอาจมองคล้ายรูปใบหน้าสตรีสูงอายุ สมกับชื่อพระแม่ย่าจนกลายเป็นอุปทานให้เกิดขึ้นแก่ผู้ที่พบเห็น
รูปเคารพ "พระแม่ย่า" จากศาลในเพิงผาหรือถ้ำปากประตูสู่ป่าเขาในบริเวณโชกพระแม่ย่า ที่เป็นรูปเคารพศักดิ์สิทธิ์ เป็นเทพสตรีผู้พิทักษ์และกำกับอำนาจเหนือธรมชาติเพื่อดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติของป่าที่เป็นทรัพย์ส่วนรวมและต้นน้ำลำธารที่หล่อเลี้ยงชาวบ้านเมืองสุโขทัยส่วนหนึ่ง ถือว่าเป็นรูปแบบที่สืบเนื่องเรื่อยมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ก็เป็นได้ จนกลายมาเป็นเทพรักษาเมืองที่ดลบันดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาลเพื่อความอุดมสมบูรณ์แห่งแผ่นดินของชาวจังหวัดสุโขทัย และคนทั่วไปในทุกวันนี้
พชรพงษ์ พุฒซ้อน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:

![เห็นเวียดนามผ่านกบฏชาวนา กว่างจุง [QUANG TRUNG] วีรบุรุษผู้รวมชาติ](https://static.wixstatic.com/media/9512c9_8cfdbdb9de4e4c6da94dca3643141623~mv2.jpg/v1/fill/w_980,h_1307,al_c,q_85,usm_0.66_1.00_0.01,enc_avif,quality_auto/9512c9_8cfdbdb9de4e4c6da94dca3643141623~mv2.jpg)

ความคิดเห็น